ททท.ตรัง จับมือ จ.สตูล หนุนเปิดล่องแก่งชมไพร วังสายทอง เปิดทางเลือกใหม่ให้นักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัย และสนองนโยบายของรัฐบาลในด้านการท่องเที่ยวชุมชน เผยกลุ่มทุนท้องถิ่นผุดที่พักรูปแบบโฮมสเตย์รองรับกว่า 20 ราย ห้องพักกว่า 660 ห้อง สามารถสร้างรายได้เข้าชุมชนปีละกว่า 10 ล้านบาท
นางสาวกรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตรัง เปิดเผยว่า ททท.สำนักงานตรัง รับผิดชอบการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดตรัง และจังหวัดสตูล โดยมีการทำการท่องเที่ยวในรูปแบบที่สามารถเชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านการทำแผนการตลาดที่ทำมาทุกปี สำหรับในการทำแผนการท่องเที่ยวในส่วนของจังหวัดสตูลในปีนี้ ได้จับมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดสตูล ส่งเสริมการท่องเที่ยวในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวหลักที่สำคัญทั้งทางบกและทางทะเลนางสาวกรุณาเปิดเผยต่อไปว่า ในส่วนของการท่องเที่ยวทางทะเลนั้น จังหวัดสตูลถือว่ามีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่ขึ้นชื่อและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเกาะหลีเป๊ะ เกาะตะรูเตา เป็นต้น ส่วนของการท่องเที่ยวทางบกที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมไม่แพ้กันจนได้รับการคัดเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเขาเล่าว่าจาก ททท.คือถ้ำภูผาเพชร และสันหลังมังกร ที่ถือเป็นอีกอันซีนหนึ่งของการท่องเที่ยวจังหวัดสตูล
"สำหรับแหล่งท่องเที่ยวท่ถือว่ามาแรงในช่วงนี้ของจังหวัดสตูล ต้องยกให้การล่องแก่ง ซึ่งมีอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะที่บ้านวังสายทอง ที่มีน้ำในคลองลำโตน ไหลผ่านถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวล่องแก่งที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ เพราะเป็นคลองที่มีน้ำไสที่สุด มีระยะทางการล่องแก่งที่ยาวที่สุดกว่า 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเศษๆ และเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยมีน้ำที่ระดับ 3-4 ตลอดทั้งปี และน้ำที่ระดับ 4-5 ในช่วงเดือนตุลาคม-เดือนพฤศจิกายน สามารถใช้ได้ทั้งเรือคายัค และเรือยาง ทำให้แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวอย่างต่อเนื่องในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ" นางสาวกรุณากล่าว
ด้านนายสมบัติ อักษรนิตย์ ประธานชมรมล่องแก่งวังสายทอง ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล เปิดเผยว่า การล่องแก่งวังสายทอง มีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยไม่น้อยกว่าเดือนละ 2,500-3,000 คน โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเกือบเท่าตัว และสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนไม่น้อยกว่าปีละ 10 ล้านบาท ทำให้ขณะนี้มีกลุ่มนักลงทุนทั้งในท้องถิ่น และต่างถิ่น เข้ามาลงทุนทำห้องพักในรูปแบบโฮมสเตย์แล้วกว่า 20 แห่งรวมห้องพักประมาณ 660 ห้อง โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัดเข้าชุมชนเพิ่มขึ้นทุกปี
นายสมบัติเปิดเผยต่อไปว่า สำหรับที่พักแบบโฮมสเตย์นั้นแยกเป็นโฮมสเตย์ระดับ 3 ดาวจำนวน 10 แห่ง ระดับ 4 ดาว จำนวน 8 แห่ง และระดับ 5 ดาว จำนวน 5 แห่ง ซึ่งการจัดระดับดาวโฮมสเตย์ดังกล่าวทางชมรมล่องแก่งวังสายทอง จะเป็นผู้กำหนดขึ้นมาเอง ทั้งนี้ในแต่ละปีทางจังหวัดสตูล จะเข้ามาส่งเสริมการล่องแก่งวังสายทอง อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดกิจกรรม "เยือนถิ่นเซมัง ณ วังสายทอง ล่องแก่งชมไพร@สตูล" ซี่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยจัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้รวม 3 วัน นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวจะได้ชมความสวยงามของธรรมชาติ ลำน้ำ ป่าเขาลำเนาไพร ความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ความเป็นอยู่ของชนเผ่าซาไก วิถีชีวิตของคนพื้นถิ่น อาหารที่อร่อยหลากหลาย ที่จะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างไม่รู้ลืม
"ทั้งนี้ภายในงานมีการจัดแพคเกจท่องเที่ยวราคาประหยัดเพียงท่านละ 550 บาทเท่านั้น จากราคาปกติ 1,200 บาท ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ซื้อแพคเกจในช่วงจัดงานจะได้ที่พักแบบโฮมสเตย์ 1 คืน อาหาร 3 มื้อ ล่องแก่งที่ผจญภัยแบบสนุกสนานเร้าใจ พร้อมชิมผลไม้ที่จะลอยไว้ในเรือกลางคลองที่ล่องแก่ง ให้รับประทานแบบเต็มอิ่ม ไม่ว่าจะเป็นลองกอง มังคุด กล้วย มะละกอ ทุเรียน เงาะ เป็นต้น ซึ่งเป็นผลไม้ปลอดสารพิษ 100% ที่ปลูกโดยชาวบ้านเองทั้งหมด ทั้งนี้มีเงินสะพัดในช่วงการจัดงานกว่า 2 ล้านบาท สร้างรายได้ให้กับชุมชนได้เป็นอย่างดี" นายสมบัติกล่าว
แสดงความคิดเห็น